วันพฤหัสบดีที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2555

เวลา และระยะทาง

คืนนี้ไร้เงาจันทร์แจ่มกระจ่าง
เลือนลางจางแสงที่แดนสรวง
คล้ายน้ำตาปริ่มล้นมาท้นทรวง
หรือแค่ลวงหลอกเล่นเป็นบางครา

       เพราะเราคงคิดถึงใครคนหนึ่ง
       คนที่ซึ่งกลับกลายเหมือนหายหน้า
       คนที่เคยเข้ามาอย่างช้าช้า
       ให้รู้ว่ารักและคิดถึงซึ้งอย่างไร

เวลา...ระยะทาง...พาหายห่าง
มีช่องว่างให้ร้างไกลไม่หรือใช่
จึงไม่มีบทสรุปเป็นเช่นไร
ทำให้ใจไหวหวั่นและสั่นคลอน.


        

ความสวยงามของท้องฟ้ายามเย็น

เย็นนี้ เป็นอีกเย็นหนึ่งที่ดวงอาทิตย์งดงาม หากมองจากสะพานสูง ทอดสายตาลง จะเห็นแนวแสงอาทิตย์ใกล้อัศดง ดวงกลมโต หลบซ่อนหลังหมู่เมฆ หากส่องแสงแผดจ้านวลตา เปล่งประกายทั่วท้องฟ้ายามเย็น ทำให้หมู่เมฆสว่างโพลน มีเงาดังภาพฝัน แสงนั้นสะท้อนลงแผ่นน้ำ เป็นประกายทองสว่าง ต่างจากอาทิตย์ตกดินในฤดูหนาว ที่ดวงกลมนั้นเคยโตแดงกล่ำ อยู่ด้านซ้ายมือ ของสะพานสูง หากวันนี้แสงนั้นราวแพรไหม ระยิบยับเหมือนจะร้อนแรง หากไม่ร้อน และยังคงพลังของความสว่างไสว เหมือนจะบอกว่า ยังคงเข้มแข็งแม้จะลาลับขอบฟ้านะ เราอาจจะเรียกว่า แสงทองทาบทาขอบฟ้า ก่อนอำลาแวววัน แล้วเราจะพบกันใหม่ในไม่ช้า ....


เราจะเข้มแข้งเหมือนแสงที่ลาลับ
พร้อมจะกลับมาใหม่ในวันพรุ่ง
สาดแสงสีบรรเจิดเริดจรุง
เป็นสายรุ้งส่องทางระหว่างวัน

     เพื่อให้เราก้าวไปข้างหน้า
     เพื่อให้เราฟันฝ่าหนทางฝัน
     เป็นวิถีเรียบง่ายในแวววัน
     เป็นกำนัลที่ยิ่งใหญ่กว่าใดเอย


     

ดึกแล้ว

ดึกแล้ว....

ที่แนวฟ้าราตรีมีดาวระยิบ
วิบวิบวับระยับพร่างกลางเวหน
หากห้วงใจยังรู้สึกเหมือนมืดมน
ยังอึงอลสับสนไร้หนทาง

        ฉันก้าวไปในเงาที่ไร้ตัวตน
        เธอล่องหนเร้นกายคล้ายเหินห่าง
        ค่อยค่อยเลือนลบหายคล้ายควันจาง
        มีบางครั้งคล้ายผิวเผินบังเอิญเจอ

ในไม่ช้า...เราจะกลายเป็นแค่คนเคยรู้จัก
 เป็นคนเคยรักเคยพร่ำเพ้อ
เพราะฉันอาจปล่อยใจให้เผลอเรอ
สุดท้ายก็รักเก้อเพ้อคนเดียว

         ที่รัก...ดึกแล้วนะ
         ฉันจะหลับตาลงในคืนเปล่าเปลี่ยว
         ฉันจะส่งความคิดถึงเพียงฝ่ายเดียว
         เพราะเธอมาพันเกี่ยวในเสี้ยวใจ

ฉันจะมีเธออยู่ในความฝัน
กุมมือกันในอ้อมกอดจวบวันใหม่
จนรุ่งรางดวงดาราจะคลาไคล
หลอมดวงใจมอบรักภักดิ์แด่เธอ.