วันอังคารที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2554

บรรพที่สาม - เส้นทางน้ำหนาว พาชมป่า

เช้าวันหนึ่งในท่ามความเหน็บหนาว
เมื่อหมอกขาวพราวพร่างคล้ายร่างแห
ดับตะวันคลุมผืนฟ้าสุดตาแล
รอเปลี่ยนแปรแดดตอนสายระบายฟ้า

    
                             ปลุกทิวาวันใหม่หวานไหวต่อ
                             ขณะช่อดอกไม้กรายกลีบกล้า
                             แมลงปอไซ้น้ำค้างเพื่อสั่งลา
                             ผีเสื้อกางปีกท้าฟ้าสีทอง


                                   ในป่าดิบดงผืนไม้ยืนต้น
                                   ถึงป่าสนสุดตาจะพาล่อง
                                  โน่น"เต็ง""รัง" "ยาง" "ตะเคียน"วนเวียนมอง
                                  เพื่อจะส่องมองนกวิหคไพร


มะลิป่าหอมกรุ่นกำจายกลิ่น
กับกล้วยไม้ไอดินและกลิ่นไผ่
ดอกพยอมหอมฟุ้งมาแต่ไกล
"ก่อ""สมุนไพร""ไม้มะค่า"คูป่างาม

       
                  บางตอนเป็นป่าเบญจพรรณ
                  ดงเถาวัลย์พันไม้ใหญ่ให้เกรงขาม
                  ทั้ง"ป่าแดง" แฝงทุ่งหญ้า"มะค่า"งาม
                  ทั้งสนสาม สองใบไกลสุดตา


                                     ทางข้างหน้าซ่าซักสาดโสรก
                                     เป็นตักโตรกโกรกกรากบนฟากผา
                                     สูงตระหง่าน"น้ำตกเหวทราย" ละลานตา
                                     ลำธารหน้าฝนปนขุ่นโคลน


ต้นน้ำอยู่ที่ป่าดิบชื่อ"ดงเเหน่ง"
ไหลผ่านแอ่ง"ป่าซำผักดาว"ตามกล่าวกร่น
แนวธรรมชาติสวยงามตามสายชล
ชะง่อนหินใหญ่จนหลบฝนทัน


                      ป่าน้ำหนาวคราวฝนกับคนรักป่า
                      ทรงคุณค่าความงามตามอย่างนั้น
                      จะรักษ์ป่าปลูกใจตามให้ทัน
                      เพื่อลูกหลานสืบทอดเจตนา


                                        เราจากลาป่ากว้างหนทางฝัน
                                        ทอแวววันหวานไหวให้แกร่งกล้า
                                        รอวันหนึ่งจะกลับไปใช้เวลา
                                        อยู่กับป่า กับฟ้างาม กับความจริง.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น